ได้เวลาการตลาดต้องปรับ นักการตลาดต้องเปลี่ยนความคิดกันแล้ว!
ในแต่ละปีโลกและพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลง หากนักการตลาดยังคงนิ่งเฉย ไม่ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ยังยึดติดกับความคุ้นชินย่อมส่งผลเสียต่อการดำเนินธุรกิจอย่างแน่นอน ซึ่งถึงเวลานั้นสภาพแวดล้อมและความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายก็จะบังคับคุณให้ปรับเปลี่ยน แต่ก็อาจจะสายเกินแก้หรือช้ากว่าคู่แข่งขันในตลาด ในเนื้อหาสองตอนต่อไปนี้ผู้เขียนจึงจะเขียนถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในปีนี้ ดังนี้ 1. การเปลี่ยนแปลงการตลาดเชิงกลยุทธ์ ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จในปีนี้จะต้องคิดนอกเหนือจากสิ่งที่กำลังทำอยู่และเชื่อมโยงทุกอย่างกลับไปที่ธุรกิจโดยรวม เป้าหมายและวัตถุประสงค์ทางการตลาดจะต้องสอดคล้องกับเป้าหมายหลักของธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงการตลาดเชิงกลยุทธ์เป็นคำที่ใช้อธิบายกระบวนการ ขณะที่การดำเนินการธุรกิจค่อยๆ พัฒนาด้วยการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนและกระบวนการทางธุรกิจขั้นพื้นฐาน การเปลี่ยนแปลงทางการตลาดเชิงกลยุทธ์สามารถช่วยธุรกิจต่างๆ ในการปรับปรุงการบริการและสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า เพิ่มการรับรู้แบรนด์และชื่อเสียงของแบรนด์ ตลอดจนเพิ่มรายได้และผลกำไร ซึ่งธุรกิจต่างๆ สามารถทำได้โดยการรวบรวมข้อมูล การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและการมี ส่วนร่วมของลูกค้า รวมถึงการเผยแพร่เนื้อหาที่มีคุณภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์พื้นฐานที่มีอิทธิพลต่อพนักงานและทุกแผนกในบริษัท ไม่ใช่แค่นักการตลาดเท่านั้น แผนการตลาดเชิงกลยุทธ์ของคุณกำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์ทางการตลาดที่คุณจะใช้เพื่อเข้าถึงลูกค้าของคุณ เช่น การทำการตลาดด้วยเนื้อหา การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหาในตำแหน่งที่ดีที่สุดหรือ ติดหน้าแรกของเสิร์ชเอ็นจิน การทำการตลาดผ่านอีเมล โซเชียลมีเดีย การโฆษณา และการตลาดออฟไลน์ จากนั้นก็วางแผนวิธีการที่ทุกส่วนขององค์กรจะเข้ามามีส่วนร่วมในกลยุทธ์เหล่านี้ในลำดับต่อไป กลยุทธ์ทางการตลาดไม่ได้เป็นเพียงความรับผิดชอบของหัวหน้าหรือผู้บริหารฝ่ายการตลาดอีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงการตลาดเชิงกลยุทธ์จะให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวนี้ รวมทั้งจะมีการพิจารณาถึงแบรนด์ ชื่อเสียงของบริษัท ความสัมพันธ์กับลูกค้า และประสบการณ์ของลูกค้าโดยรวมในทุกกิจกรรมทางธุรกิจอีกด้วย 2. การมุ่งเน้นไปที่ความภักดี การรักษาลูกค้า และการสนับสนุนของลูกค้า การมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า คือ การทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและมุ่งเน้นการรักษาลูกค้าที่มีอยู่แทนที่จะไปแสวงหาลูกค้าใหม่ เพราะลูกค้าประจำนั้นมีค่ามากกว่าลูกค้าใหม่ นอกจากนี้การหาลูกค้าใหม่และการรักษาลูกค้าใหม่นั้นยังมีค่าใช้จ่ายมากกว่าถึงห้าเท่า ดังนั้นการพยายามทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและมีความสุขจึงคุ้มค่ากว่านั่นเอง ลูกค้าประจำยังช่วยเพิ่มชื่อเสียงและการรับรู้แบรนด์เมื่อพวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับบริษัทและผลิตภัณฑ์ของคุณกับเพื่อนและครอบครัว ลูกค้าที่มีความสุขจะกลายเป็นตัวแทนของแบรนด์และเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่ดีเยี่ยมให้กับคุณโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย […]