10 เทรนด์ด้านเทคโนโลยีสำหรับ 2021 ที่ควรเรียนรู้


ในระยะ 10 ปีมานี้ เราได้เห็นเทคโนโลยีที่พัฒนาไปไกล จนเรียกได้ว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่โลกแห่งอนาคตเข้าไปทุกที เริ่มจากการสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านจากมือถือ ความฉลาดของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เราสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ โทรศัพท์มือถือที่ทั้งฉลาดและจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของคนสมัยใหม่ รวมถึงการเดาใจได้อย่างแม่นยำของอินเตอร์เน็ตที่มักจะมีโฆษณาข้าวของเครื่องใช้ที่เราสนใจขึ้นมาให้เรากดเข้าไปซื้ออยู่เสมอ รวมถึงโปรแกรมต่าง ๆ ที่ฉลาดล้ำและช่วยให้ทำงานของเราเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าเดิม สิ่งเหล่านี้ล้วนพัฒนามาจากเทคโนโลยีทั้งสิ้น มาดูเทรนด์เทคโนโลยีของปี 2021 ที่คุณควรเรียนรู้เพื่อมาพัฒนาสกิลการทำงานให้พุ่งแรงยิ่งกว่าเดิม

1. AI และ Machine Learning

          AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ที่เป็นเหมือนสมองที่แทรกอยู่ในเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อให้สิ่งเหล่านั้นสามารถทำงาน วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีคนควบคุม และ Machine Learning คือ มันสมองของ AI ซึ่งเป็นส่วนของการเรียนรู้ให้ AI สามารถประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลออกมาได้ฉลาดกว่าเดิม ตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์ที่ชนะการแข่งเล่นโกะกับแชมป์โกะโลกที่เป็นคนจริง ก็เป็นผลผลิตจากเทคโนโลยีนี้

ในหลาย ๆ ธุรกิจได้นำเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาใช้ในการทำงาน โดยเฉพาะในแวดวง Marketing ทั้งในแง่ก็การวิเคราะห์ข้อมูล หาส่วนแบ่งทางการตลาด การแก้ไขปัญหา และคาดเดาความน่าจะเป็นในอนาคต AI และ Machine Learning เป็นเทคโนโลยีที่คนที่ทำงานในสายมาร์เกตติ้งควรให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

2. Internet of Things (IoT)

          Internet of Things คือ สิ่งของทุกอย่างบนโลกใบนี้ที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย (Internet) เพื่อแลกเปลี่ยนและแบ่งปันข้อมูล โดยมีมนุษย์เกี่ยวข้องน้อยที่สุด เช่น พวก Smart Device ต่าง ๆ อย่าง AppleWatch หรือ นาฬิกา Smartband ที่เก็บข้อมูลของเราผ่าน sensor และส่งผลไปที่มือถือ เพื่อแสดงผล รวมไปถึงประมวลผลออกมาเป็นคำแนะนำการดูแลสุขภาพ ซึ่ง IoT ยังมีประโยชน์ในแง่ที่สามารถรับ-ส่งข้อมูลดิจิตัลได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว แบบ Real-Time และยังแม่นยำ ตรวจสอบได้ ทำให้สามารถช่วยลดจำนวนแรงงานคนที่จะต้องใช้ในการทำงานได้มาก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากกับผู้ประกอบการรายย่อยทั้งหลาย เรียกได้ว่า Internet of Things เป็นเทคโนโลยีที่คนในยุค Digital Transformation ต้องเรียนรู้ไว้

3. 5G

ความเร็วอินเตอร์เนตระดับ 5G ได้รับการพัฒนาและใช้งานในหลายประเทศตั้งแต่ปี 2020 แล้ว ซึ่ง 5G คือการเชื่อมต่อแห่งอนาคตที่อุปกรณ์ทุกชนิดสามารถเชื่อมกันโดยผ่านอินเตอร์เนตได้ เป็นส่วนที่มาคู่กันกับ Internet of Things (IoT) นั่นเอง นอกจากจะเชื่อมทุกอย่างผ่านอินเตอร์เนตได้แล้ว ยังมีความสามารถในการเชื่อมต่อที่รวดเร็วกว่าเดิมอีกด้วย เช่น ถ้าเราโหลดหนังคุณภาพสูงผ่าน 4G ต้องใช้เวลา 6 นาที แต่ 5G จะทำให้เราดาวน์โหลดหนังคุณภาพเดียวกันได้ภายใน 6 วินาทีเท่านั้น ! ซึ่งตอนนี้บริษัทชั้นนำของโลกหลายบริษัทได้ผลิตอุปกรณ์รองรับ 5G ออกมาแล้ว และในปี 2021 เทคโนโลยี 5G จะต้องถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ทั้งในชีวิตประจำวัน และการทำงานอย่างแน่นอน

4. Automation

          Automation คือ ระบบอัตโนมัติที่ไม่จำเป็นต้องตอบโต้หรือได้รับการสั่งงานจากมนุษย์ในทุกครั้งที่มีการทำงาน ซึ่งจะช่วยเราทำงานซ้ำ ๆ ที่เป็นแพทเทิร์น หรืองานที่มีการกำหนดขั้นตอนและตัวแปรต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจน Automation นอกจากจะมีบทบาทสำคัญในสายงานการผลิต โรงงานอุตสาหกรรมแล้ว ในสายมาร์เกตติ้งก็มีการใช้ Automation มาช่วยทำงานด้วย เช่น การส่งข้อความอวยพรวันเกิดให้กับลูกค้า โดยสามารถตั้งค่าให้ส่งข้อความหรือโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะลูกค้าที่เกิดในวันนั้น ๆ ซึ่งเป็นการตั้งค่าคัดกรองวันเกิดครั้งเดียว แล้วให้ระบบทำการส่งข้อความเอง โดยที่ไม่ต้องมีคนมาคอยเช็ควันเกิดลูกค้าทุกวัน นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างการทำงานของ Automation ในงานด้านมาร์เกตติ้ง เรายังสามารถใช้งาน Automation ในลักษณะนี้กับกับงานด้านอื่น ๆ ได้อีกด้วย เพื่อความรวดเร็ว และประหยัดทรัพยากรมนุษย์

5. Blockchain

          เมื่อพูดถึง Blockchain หลาย ๆ คนคงนึกถึงสกุลเงินดิจิตัลอย่าง Bitcoin แต่ในความเป็นจริงแล้วเทคโนโลยี Blockchain สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น เพราะที่จริงแล้ว Blockchain เป็นรูปแบบการเก็บข้อมูล (Data structure) แบบหนึ่ง ที่ทำให้ข้อมูล Digital transaction ของแต่ละคนสามารถแชร์ไปยังทุก ๆ คนได้ เป็นเหมือนห่วงโซ่ (Chain) ที่ทำให้ block ของข้อมูลลิ้งก์ต่อไปยังทุก ๆ คน โดยที่ทราบว่าใครที่เป็นเจ้าของและมีสิทธิในข้อมูลนั้นจริง ๆ ข้อมูลที่ถูกบันทึกแล้ว จะอยู่ในระบบของคนที่อยู่ในเครือข่ายทุกคน ซึ่งสามารถรัน Algorithm เพื่อตรวจสอบ Transaction ทำให้เกิดความปลอดภัยของข้อมูลโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เช่น ในกรณี Bitcoin คือ สามารถโอนเงินถึงกันได้ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างธนาคาร เป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งเป็นการ Disrupt ธุรกิจการเงินอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ใครก็ตามที่มีสามารถพัฒนาและนำเทคโนโลยี Blockchain มาประยุกต์ใช้ได้ จะเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอย่างมาก

6. Cyber Security

          ความเกี่ยวเนื่องของเทคโนโลยีและอินเตอร์เนตที่แทบจะเป็นส่วนเดียวกับกับชีวิตของมนุษย์ทำให้หลาย ๆ คนให้ความใส่ใจกับ Cyber Security หรือ ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ ทั้งในแง่ของคนทั่วไปที่มีความกังวลถึงการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวผ่านโลกออนไลน์ ทำให้บริษัทต้องปรับนโยบายในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า เพื่อเอาชนะใจลูกค้า ในขณะเดียวกัน การมี Cyber Security ที่ดีในบริษัท ยังช่วยรักษาข้อมูลที่เป็นความลับไม่ให้รั่วไหลไปอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ควรเรียนรู้เอาไว้เป็นอย่างมาก

7. Voice Technology

          เราคุ้นเคยกับเทคโนโลยี Voice Technology ผ่านทาง Siri, Alexa หรือจะเป็น Bixby ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้มีการตอบโต้ที่ลื่นไหลเป็นธรรมชาติเหมือนคนมากขึ้นเป็นอย่างมาก พร้อมกับทั้งความฉลาดในการรับคำสั่งงานด้วยเสียงจากมนุษย์ ที่สามารถทำให้ดีขึ้นอย่างสังเกตเห็นได้ชัด ตอนนี้เราจะเห็นสมาร์ททีวีที่สามารถค้นหารายการโปรดทาง YouTube หรืออินเตอร์เน็ตได้ผ่านทางเสียงกันแล้ว และมีแนวโน้มว่า Voice Technology จะถูกในไปใช้งานในด้านอื่น ๆ อีกมากมายด้วย

8. Edge Computing

          Edge computing คือ การประมวลผลข้อมูลในคราวด์ (Cloud) ให้แสดงผลเร็วใกล้เคียงกับความเร็วของเครือข่ายมากที่สุด และยังเป็นการประมวลการจัดเก็บข้อมูลสู่คราวด์ (Cloud) อีกด้วย เทคโนโลยี Edge Computing มีประโยชน์มากกับการรับ-ส่งและแสดงข้อมูลแบบ Real-Time ทำให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และมีความจำเป็นอย่างสูงในภาคธุรกิจ เพราะเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล ไม่ให้ถูกจู่โจมทางด้านไซเบอร์ได้ง่าย เรียกได้ว่าเป็นอีกขั้นของระบบ Cloud Computing

9. Data Analytics

          Data Analytics คือ การนำข้อมูลต่าง ๆ ที่เก็บได้จากที่ต่าง ๆ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน มาวิเคราะห์รวมกันเพื่อสร้างหรือปรับปรุงธุรกิจ หรือการตลาดให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้นกว่าเดิม จัดว่าเป็นเครื่องมือสำหรับธุรกิจ (Business Intelligence) ที่สำคัญมากในยุคปัจจุบัน เพราะจะช่วยประหยัดทั้งเงิน และเวลา ช่วยให้รู้จักความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น พัฒนาสินค้าที่ใช่สำหรับตลาด และสามารถวางกลยุทธ์การขายให้ประสบความสำเร็จได้ ซึ่งแทบทุกบริษัทใช่ Data Analytics กันหมดแล้ว แม้แต่ร้านขายของออนไลน์ ยังใช้เครื่องมือ Analytics ที่  Facebook หรือ Google มีให้มาใช้สร้างแผนการตลาดเลย เพราะฉะนั้นจัดว่าเป็นอีกหนึ่งความรู้ที่ทุกคนต้องมี

10. Virtual Reality (VR)

          การมาของ Virtual Reality มีมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง อาจจะเริ่มต้นจากเกมส์ อย่างที่เรารู้กันดี แต่ตอนนี้มีการนำเทคโนโลยี VR มาใช้ในด้านอื่นมากยิ่งขึ้น ทั้งในการสร้างความรู้สึกมีส่วนร่วมกับแบรนด์ และในด้านการขาย เช่น ร้านขายเครื่องสำอาง ก็นำเทคโนโลยี VR มาใช้ให้ลูกค้าได้สามารถลองสีลิปสติกได้โดยที่ไม่ต้องทา หรือการลองเสื้อผ้า และการท่องเที่ยวผ่าน VR ซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมและได้รับการพัฒนาแบบก้าวกระโดดในยุค Covid-19 นี้อย่างแน่นอน

          10 เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะเป็นเทรนด์ในปี 2021 ที่กำลังจะมาถึงนี้ จะเห็นได้ว่าหลาย ๆ เรื่องอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วให้ดีกว่าเดิม ฉลาดกว่าเดิม และใช้งานได้จริงยิ่งกว่าเดิม ใครรู้ก่อน มีโอกาสก่อนแน่นอน ส่วนใครที่มีสกิลเทคโนโลยีแล้ว

Resources

● th.jobsdb.com

● freepik.com